เขาสามมุข อ.เมือง จ.ชลบุรี

     “เขาสามมุข” คือ ภูเขาลูกเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลระหว่างเส้นทางจาก “อ่างศิลา” มุ่งหน้าสู่ “บางแสน” บนยอดเขาฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขาสามมุขเป็นจุดชมทิวทัศน์ “อ่าวอ่างศิลา” ที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นหลักเลี้ยงหอยนางรมและหลักเลี้ยงหอยแมลงภู่นับร้อยนับพันหลักซึ่งปักเรียงรายอยู่เต็มอ่าวได้อย่างชัดเจน ส่วนไหล่เขาทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเขาสามมุขนั้นเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็น “แหลมแท่น” ยาวต่อเนื่องไปจนถึง “หาดบางแสน” ได้

ขึ้น "เขาสามมุข" มาดูลิง..........สนุกจริงๆ นะตัวเอง

.........................วานร (ลิง).....หลอก.....เจ้า.........................

     บริเวณโดยรอบเขาสามมุขมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ลิงเหล่านี้ไม่กลัวคนและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทุกๆ วันจะมีพ่อค้าแม่ค้านำตะกร้าใส่ผักผลไม้จำพวกข้าวโพด , กล้วย , ถั่ว , ฯลฯ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้นำไปเลี้ยงลิงเหล่านี้อีกต่อหนึ่ง การซื้ออาหารเลี้ยงลิงบนเขาสามมุขนั้นมีข้อควรระวัง คือ หากคุณถืออาหารลิงไว้ในมือนานๆ อาจมีลิงบางตัวกระโดดเข้ามาแย่งได้ นอกจากนี้ควรระมัดระวังสิ่งของมีค่าต่างๆ ซึ่งพกติดอยู่กับตัวให้ดี เพราะลิงขี้สงสัยบางตัวอาจวิ่งกระโดดเข้ามาคว้าไปเล่นได้เช่นเดียวกัน

เขาสามมุข อ.เมือง จ.ชลบุรี สถานที่ซึ่งมีตำนานรักอันแสนเศร้าสร้อย

     บนเขาสามมุขมีพื้นที่จอดรถยนต์ไม่มากนัก แถมบางครั้งหลังจากจอดรถเสร็จก็ต้องทำใจไว้บ้างเพราะมักจะมีฝูงลิงแวะเวียนมาช่วยสำรวจความเรียบร้อยต่างๆ รอบๆ รถเสมอๆ บ้างก็อาจจะพยายามแคะขอบกระจก บ้างก็อาจลองดึงยางปัดน้ำฝนเล่น หรือ บางตัวก็อาจตกลงใจยึดเอาหลังคารถเป็นสถานตากอากาศชั่วคราว.....พอเจ้าของรถจะเข้าไปไล่มันก็แยกเขี้ยวใส่อีกต่างหาก ถ้าพ่อค้าแม่ค้าอาหารลิงในบริเวณใกล้เคียงรู้สึกสงสารเจ้าของรถที่ไม่ค่อยรู้อิโหน่อิเหน่ก็อาจเข้ามาช่วยไล่ลิงให้บ้าง (เพราะฉะนั้น.....หากจะซื้ออาหารเลี้ยงลิงก็ควรซื้อจากพ่อค้าแม่ค้าซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณที่จอดรถนั่นแหละครับ)

สองหนุ่ม..........สองมุม กำลังประชันความหล่อบนยอดเขาสามมุข

     นอกจากจะเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีฝูงลิงป่าที่สุดแสนน่ารัก? มาช่วยเพิ่มสีสันให้แก่วันท่องเที่ยวของคุณแล้ว บริเวณพื้นที่เขาสามมุขแห่งนี้ยังมีตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับความรักและความตายซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดกำเนิดของชื่อ “เขาสามมุข” และ “หาดบางแสน” ด้วย

     ตำนานแห่งความรักและความตายซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อ “เขาสามมุข” และ “บางแสน”

     บริเวณเชิงเขาสามมุขด้านทิศเหนือเป็นที่ตั้งของ “ศาลเจ้าแม่สามมุข” และ ณ มุมหนึ่งของศาลแห่งนี้เองที่มีเรื่องราวความรักของเจ้าแม่สามมุขจารึกอยู่...........เรื่องราวอันอาจเชื่อได้ว่าเป็นที่มาของชื่อ “เขาสามมุข” และ “หาดบางแสน” ซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จะขอนำเรื่องราวดังกล่าวมาถ่ายทอดให้ทุกๆ ท่านได้ทราบโดยสังเขปดังต่อไปนี้

ผืนน้ำ.....รอยพระพุทธบาท.....พฤกษชาติ.....วางมาดจริงนะเจ้าจ๋อ !!

มุมมองแบบกว้างไกลสุดสายตาของ "อ่าวอ่างศิลา" จากยอด "เขาสามมุข"

อ่าวอ่างศิลาที่เต็มไปด้วยหลักเลี้ยงหอยนางรม และ เส้นทางขึ้นสู่ "เขาสามมุข"

     สามมุขชอบมานั่งดูเด็กและคนหนุ่มสาวเล่นว่าวริมเชิงเขาอยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งก็มีว่าวหลุดขาดจากสายป่านตกลงมาตรงหน้าของสามมุข และมีเด็กหนุ่มเจ้าของว่าวชื่อแสนวิ่งไล่ตามมาจนได้พบกับเธอ.....ทั้งสองจึงได้รู้จักกัน หลังจากนั้นสามมุขกับแสนก็ได้พบปะคบหากันเรื่อยมาจนเกิดเป็นความรัก และได้สาบานต่อหน้าขุนเขาว่าทั้งสองจะครองรักกันชั่วนิรันดร.....ในกาลนั้นแสนได้มอบแหวนวงหนึ่งให้แก่สามมุขไว้เพื่อเป็นพยานแห่งความรักของเขา

.........................ลิง กับ คน บนจุดชมทิวทัศน์.........................

     เมื่อความทราบเข้าถึงกำนันบ่ายซึ่งเป็นพ่อของแสนก็ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจเพราะสามมุขมีฐานะยากจน ถึงแม้ว่าแสนจะพยายามขอร้องผู้เป็นพ่อให้ไปสู่ขอสามมุข แต่กำนันบ่ายก็กีดกันและกักบริเวณแสนไว้ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้พบหน้ากันอีก หลังจากนั้นกำนันบ่ายก็ได้ไปสู่ขอลูกสาวคนทำโป๊ะให้มาแต่งงานกับแสนแทน ข่าวการแต่งงานของแสนได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งตำบลอ่างหินและในเขตใกล้เคียงจนทราบถึงหูของสามมุข

     ในวันแต่งงาน.....ตลอดระยะเวลาที่แขกทยอยเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรให้แก่คู่บ่าวสาว แสนได้แต่ก้มหน้านิ่งเสียใจอยู่กับตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้ จวบจนกระทั่งแสนรู้สึกว่ามีน้ำสังข์รดลงมาพร้อมๆ กันกับที่มีแหวนวงหนึ่งตกลงมาด้วย.....แหวนซึ่งเขาเป็นคนมอบให้แก่สามมุขด้วยตนเอง !! แต่เมื่อแสนเงยหน้าขึ้นก็พบว่าสามมุขได้วิ่งจากไปแล้ว

คอนโดมิเนียม กับ ร้านอาหารริมทะเลที่ "แหลมแท่น"

     แสนหวนนึกถึงคำสาบานซึ่งได้ให้ไว้กับสามมุข เขาจึงรีบวิ่งไปยังเชิงเขาที่เคยเอ่ยคำสาบานไว้.....แต่ก็สายเกินไป เพราะสามมุขได้ปีนขึ้นไปบนหน้าผาแล้วทิ้งร่างพร้อมกับหัวใจอันแหลกสลายลงมาเบื้องล่างเสียชีวิตอยู่ริมทะเลแล้ว แสนจึงตัดสินใจกระโดดลงจากหน้าผาตามหญิงคนรักลงมาจนเสียชีวิตไปพร้อมกัน ชาวบ้านที่ได้ทราบเรื่องราวต่างก็เศร้าสลดใจเป็นอย่างมากและพากันสาปแช่งกำนันบ่าย ต่อมากำนันบ่ายจึงได้นำถ้วยชามข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มาไว้ภายในถ้ำบริเวณหน้าผาที่สามมุขและแสนกระโดดลงไปตาย พร้อมทั้งตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า “เขาสามมุข” และตั้งชื่อชายหาดที่อยู่ใกล้ๆ กันว่า “หาดบางแสน” เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของคนทั้งสอง

     ต่อมาชาวบ้านได้ช่วยกันก่อสร้างศาลขึ้น ณ จุดที่เชื่อว่าสามมุขและแสนกระโดดลงไปตาย พร้อมทั้งตั้งชื่อว่า “ศาลเจ้าแม่สามมุข” เมื่อชาวบ้านชาวประมงจะออกเรือไปหาปลาก็จะมาจุดประทัดบนบานศาลกล่าวขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ ในท้องทะเล ครั้นเมื่อตำนานความรักของเจ้าแม่สามมุขแพร่กระจายออกไปมากขึ้นก็เริ่มมีคู่รักหลายคู่มาอธิษฐานขอพรให้ความรักของตนเองสมหวัง.....ไม่ต้องพลัดพรากจากกันเหมือนกับเรื่องเศร้าที่เคยเกิดขึ้น โดยคู่รักเหล่านี้จะเขียนชื่อของตนเองและคนรักเอาไว้บนว่าวแล้วนำมาเป็นเครื่องสักการะ

จากสะพานกลางทะเลบริเวณแหลมแท่น.....มองเห็นเขาสามมุขอยู่ไกลลิบ ๆ

     หากชมทิวทัศน์บนยอดเขา ให้อาหารลิง และกราบสักการะศาลเจ้าแม่สามมุขเสร็จเรียบร้อยแล้วยังพอมีเวลาเหลือ อาจลองแวะไปนั่งรับลมเย็นๆ ณ ลานกว้างริมทะเลบริเวณ "แหลมแท่น" ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก (หากจะแวะมา “แหลมแท่น” ก็ควรมาในช่วงเวลาเย็นซึ่งอากาศไม่ค่อยร้อนจะดีที่สุดครับ)

     การเดินทางสู่เขาสามมุข :

     รถยนต์ส่วนบุคคล จาก “อ่างศิลา” ให้ขับรถมุ่งหน้ามาตามทางหลวงหมายเลข 3134 สู่ “หาดบางแสน” ระหว่างทางจะพบทางแยกและป้ายบอกทางไป “เขาสามมุข” ให้เลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางดังกล่าวจะถึง “ศาลเจ้าแม่สามมุข” และถนนซึ่งวนขึ้นสู่ยอดเขาสามมุข (“เขาสามมุข” อยู่ห่างจาก “อ่างศิลา” ประมาณ 6 – 7 กม.) กรณีตั้งต้นจาก “หาดบางแสน” ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3134 วิ่งย้อนกลับไปทาง “อ่างศิลา” ประมาณ 2 กม.จะพบป้ายบอกทางไป “เขาสามมุข” ให้เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางดังกล่าวก็จะถึง “ศาลเจ้าแม่สามมุข” และถนนซึ่งวนขึ้นสู่ยอดเขาสามมุข

     รถประจำทาง ไม่มีรถประจำทางมายังเขาสามมุข นักท่องเที่ยวต้องเหมารถสองแถวจากหาดบางแสนมาเอง

     ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสม : สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

     ขอขอบคุณ : ข้อมูลอ้างอิงบางส่วนจากเว็บไซต์คม ชัด ลึก และหนังสือเที่ยวทั่วไทยไปกับนายรอบรู้ จ.ชลบุรี ของสำนักพิมพ์สารคดี