| ปราสาทหินพิมาย อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จ.นครราชสีมา   (ดูภาพด้านล่าง)
 
 
 อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย : หรือที่หลาย ๆ ท่านเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ปราสาทหินพิมาย”  เป็นพุทธสถานในนิกายมหายานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  จากการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เชื่อว่าปราสาทหินพิมายสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีชัยวีรวรมัน  กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอม ราวพุทธศตวรรษที่  16 – 17 หลังจากนั้นในช่วงศตวรรษที่ 18 กษัตริย์ขอมอีกหลายพระองค์ได้มีการบูรณะ ปฏิสังขรณ์และก่อสร้างปราสาทหินพิมายเพิ่มเติม โดยลักษณะผังของปราสาทหินพิมายนั้นสร้างขึ้นคล้ายเขาพระสุเมรุตามคติความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์และโลกมนุษย์  โดยมีปราสาทหินพิมายเสมือนประหนึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกกับสวรรค์
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | 1.ปรางค์ประธาน   2.ประติมากรรมรูปสิงห์ซึ่งตั้งอยู่หน้าสะพานนาคราช3.ภาพรวมของปราสาทหินพิมาย   4.ปรางค์พรหมทัต (เรียงตามลำดับจากซ้ายมาขวา)
 |  
 
                          
                            |  |  
                            | "ปราสาทหินพิมาย" คือ พุทธสถานในนิกายมหายานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย |  
 
 ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พิมายมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจดังนี้
 
 “สะพานนาคราช” เมื่อท่านมีโอกาสเดินเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทหินพิมาย  ด่านแรกที่จะต้อนรับท่านก็คือ สะพานนาคราช บริเวณนี้ท่านจะเห็นสะพานนาคราชและประติมากรรมรูปสิงห์  ตั้งอยู่ด้านหน้าซุ้มประตูฝั่งทิศใต้ของปรางค์ประธานซึ่งเป็นส่วนหน้าของปราสาท เชื่อว่าสร้างให้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์  ตามคติความเชื่อในเรื่องจักรวาลทั้งในศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ลักษณะสะพานนาคราชเป็นรูปกากบาท ยกพื้นขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 2.50 เมตร ราวสะพานโดยรอบทำเป็นลำตัวพญานาค  ชูคอแผ่พังพานเป็นนาคเจ็ดเศียร มีลำตัวติดกันเป็นแผ่น  หันหน้าออกไปยังเชิงบันไดทั้งสี่ทิศ
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | ....................สถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า.................... |  
 
 
      ซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอกของปราสาท เมื่อผ่านสะพานนาคราชขึ้นมาจะเป็นซุ้มประตูหรือที่เรียกว่า โคปุระ ของกำแพงปราสาทด้านทิศใต้ ก่อด้วยหินทราย  มีผังเป็นรูปกากบาทและมีซุ้มประตูลักษณะเดียวกันนี้อีก 3 ทิศ  คือ ทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก  โดยมีแนวกำแพงสร้างเชื่อมต่อระหว่างกันเป็นผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ยาวจากเหนือถึงใต้ 277.50 เมตร  และกว้างจากตะวันออกไปตะวันตก 220 เมตร  ซุ้มประตูด้านทิศตะวันตกมีทับหลังชิ้นหนึ่งสลักเป็นรูปขบวนแห่พระพุทธรูปนาคปรกที่ประดิษฐานอยู่เหนือคานหาม 
 ซุ้มประตูและกำแพงชั้นใน (ระเบียงคด) จากซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอก เข้าสู่ซุ้มประตูและกำแพงชั้นใน  ซึ่งล้อมรอบปรางค์ประธาน ลักษณะกำแพงชั้นในของปราสาทแตกต่างจากกำแพงชั้นนอก คือ มีการก่อเป็นห้องยาวต่อเนื่องกันคล้ายเป็นทางเดินมีหลังคาคลุม  อันเป็นลักษณะที่เรียกว่า ระเบียงคด มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า  ความยาวจากเหนือถึงใต้ 80 เมตร และความกว้างจากตะวันออกถึงตะวันตก  72 เมตร มีทางเดินกว้าง 2.35  เมตร เดินทะลุกันได้ตลอดทั้งสี่ด้าน หลังคามุงด้วยแผ่นหิน  การบูรณะระเบียงคดเมื่อปีพ.ศ 2532 ได้พบแผ่นทองดุนลายรูปดอกบัว  8 กลีบ บรรจุไว้ในช่องบนพื้นหินของซุ้มประตูระเบียงคดเกือบจะทุกด้าน แผ่นทองเหล่านี้คงไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลเหมือนที่พบในปราสาทอื่นอีกหลายแห่ง
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | ทางเดินภายในกำแพงแก้ว (กำแพงชั้นนอก) และ ระเบียงคด (กำแพงชั้นใน) |  
 
 ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่กลางลานภายในระเบียงคด เป็นศูนย์กลางของศาสนสถานแห่งนี้  ปรางค์ประธานสร้างด้วยหินทรายสีขาวทั้งองค์  ต่างจากซุ้มประตู(โคปุระ)และกำแพงชั้นในและชั้นนอกที่สร้างด้วยหินทรายสีแดงเป็นหลัก  มีหินทรายสีขาวเป็นส่วนประกอบบางส่วน  เนื่องจากหินทรายสีขาวมีคุณสมบัติคงทนดีกว่าหินทรายสีแดง องค์ปรางค์สูง 28 เมตร  ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสองยาวด้านละ 22  เมตร ด้านหน้ามีมณฑปเชื่อมต่อกับองค์ปรางค์โดยมีฉนวนกั้น  องค์ปรางค์และมณฑปตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนด้านอื่น ๆ  อีกสามด้านมีมุขยื่นออกไปมีบันไดและประตูขึ้นลงสู่องค์ปรางค์ทั้งสี่ด้าน
 
 ปรางค์พรหมทัต ตั้งอยู่ด้านหน้าปรางค์ประธานเยื้องไปทางซ้ายสร้างด้วยศิลาแลง  มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม กว้าง 14.50 สูงประมาณ 15 เมตร สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  ภายในปรางค์พบประติมากรรมหินทรายจำหลักเป็นรูปประติมากรรมฉลององค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่7  (จำลอง) ที่เรียกว่า ปรางค์พรหมทัต  ก็เพื่อให้เข้ากับตำนานพื้นเมืองเรื่องท้าวพรหมทัตพระเจ้าแผ่นดิน  ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เก็บรักษาองค์จริงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | หน้าบันและทับหลังบริเวณโคปุระ (ซุ้มประตู) ด้านข้างปรางค์ประธาน |  
 
 
      ปรางค์หินแดง ตั้งอยู่ทางด้านขวา  สร้างด้วยหินทรายสีแดง กว้าง 11.40 เมตร สูง 15 เมตร มีมุขยื่นออกไปเป็นทางเข้าทั้ง 4 ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือมีทับหลังสลักเป็นภาพเล่าเรื่องในมหากาพย์ภารตะตอนกรรณะล่าหมูป่า  ออกจากระเบียงคด (กำแพงชั้นใน) มาบริเวณลานชั้นนอกทางด้านทิศตะวันตก ล้อมรอบด้วยกำแพงชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง ประกอบด้วยอาคารที่เรียกว่า  บรรณาลัย มีสองหลังตั้งอยู่คู่กันและมีสระน้ำอยู่ทั้งสี่มุม
 อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เปิดให้เข้าชมทุกวัน  เวลา 07.30-18.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทยคนละ 10 บาท  ชาวต่างประเทศคนละ 40 บาท  มีบริการยุวมัคคุเทศก์ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนพิมายวิทยานำชมสถานที่ี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0 4447 1568
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | ....................ภาพจำหลักหินทรายจากยุคเก่า.................... |  
 
                          
                            |  |  
                            | ....................เอกลักษณ์ของงานศิลปะขอม.................... |  
 
 
      โบราณสถานนอกกำแพงปราสาทหินพิมาย มีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้ 
 ประตูเมืองและกำแพงเมืองพิมาย สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  บรรดาประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ  ประตูชัยด้านทิศใต้นับเป็นประตูเมืองที่สำคัญที่สุด  เพราะรับกับถนนโบราณที่ตัดผ่านมาจากเมืองพระนครเข้าสู่ตัวปราสาทพิมาย  หากหยุดยืนที่ช่องประตูเมืองด้านทิศใต้ จะมองเห็นปราสาทหินพิมายผ่านช่องประตูเมืองพอดี  ลักษณะประตูเมืองมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทางผ่านตลอดกลางประตู  ส่วนของหลังคาได้หักพังไปหมดแล้ว
 
 เมรุพรหมทัต อยู่นอกกำแพงปราสาทด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นซากโบราณสถานก่อด้วยอิฐ  ปัจจุบันเป็นมูลดินทับถมจนเป็นรูปกลมสูงประมาณ 30  เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 59 เมตร ที่เรียกว่าเมรุพรหมทัตเพราะเชื่อว่าเป็นที่ถวายเพลิงพระศพท้าวพรหมทัตตามตำนานนั่นเอง  แต่จากลักษณะการก่อสร้างเข้าใจว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย  นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานทางด้านทิศใต้ได้แก่ ท่านางสระผม กุฏิฤาษี และอโรคยาศาล
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | ....................การทัศนาจรของเณรน้อย.................... |  
 
                          
                            |  |  
                            | โดยรอบบริเวณ "ปราสาทหินพิมาย" อ.พิมาย จ.นครราชสีมา |  
 
 
      ขอขอบคุณ ข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์พิมายจากเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย  และป้ายประชาสัมพันธ์ข้อมูลตามจุดต่าง ๆ ภายในปราสาทหินพิมาย      ข้อเสนอแนะ :พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย เป็นอีกสถานที่น่าสนใจในการเที่ยวชม มีสถาปัตยกรรม ทับหลัง วัฒนธรรม  และโบราณวัตถุในอดีตให้ศึกษา อาคารด้านนอกชั้นหนึ่งชมฟรี  เป็นการจัดแสดงในอาคารเปิดโล่งด้านข้างมีหลังคา จัดแสดงชิ้นส่วนจากโบราณสถานต่าง ๆ   ด้านในเป็นอาคาร 2 ชั้น  ค่าธรรมเนียม 10 บาท และห้ามถ่ายรูป จัดแสดงอารยธรรมในอดีต ที่มา ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ  ของขอมและกลุ่มชนทางอีสานของไทย รวมถึงโบราณวัตถุต่าง ๆ  ที่มากด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม
 
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | 1.พระบรมรูปของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (จำลอง)  2."ลูกมะหวด"   ลูกกรงหินทรายสลัก3.เสาและคานภายในองค์ปรางค์บางส่วนซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่    4.พระพุทธรูปปางนาคปรก
 |  
 
                          
                            |  |  
                            | ....................ความงดงามแห่งภูมิปัญญาในอดีต.................... |  
 
      การเดินทางสู่ปราสาทหินพิมาย : จากตัวเมืองโคราช  เดินทางโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 พบทางแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข  206 ประมาณ 10 กม.  จะพบปราสาทหินพิมาย
     
                         
                          
                            | สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเขตจังหวัดนครราชสีมา (กรุณาคลิ๊ก “ ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว”  เพื่อชมภาพถ่ายและข้อมูลของสถานที่แต่ละแห่งโดยละเอียด)
 |  
                            | อ.สีคิ้ว |  |  
                            | อ.เมือง |  |  
                            | อ.พิมาย |  |  
                            | อ.โชคชัย |  |  
                            | อ.ปากช่อง |  |  
                            | อ.ปักธงชัย |  |  
                            | อ.วังน้ำเขียว | 
                               ผาเก็บตะวัน , ผาชมตะวัน  , สวนลุงไกร  , เขาสลัดได  , วังน้ำเขียวฟลอร่าฯ
                                   วิลเลจฟาร์ม&ไวเนอร์รี่  , ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอาย ุ , วังน้ำเขียวฟาร์ม  ,
                                 สวนหน้าวัวสุชาดา  , สวนเบญจมาศคุณวิภา  , อ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น  , น้ำตกสวนห้อม |  
 
 
 
 
 |