| เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ชา  ?
 ชา (แต่ไม่เย็นชา) เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน  เชื่อว่าพบในประเทศจีนเป็นครั้งแรก ประมาณ 4 พันกว่าปีมาแล้ว โดยช่วงแรกผู้ที่มีโอกาสได้ดื่มชานั้นจำกัดอยู่ในแวดวงคนชั้นสูง ข้าราชการ ขุนนางต่าง วัตถุประสงค์ของการดื่ม เน้นการดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ แต่ในปัจจุบันชากลายเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก  กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
 
 
 
        
          |  |  
          | ............บรรยากาศของไร่ชาสวยๆ แบบนี้ในเมืองไทยก็มีให้เห็นเหมือนกันนะ............  |  
      สำหรับในประเทศไทย  เชื่อกันว่าคนไทยรู้จักชา และมีการดื่มชากันตั้งแต่สุโขทัยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  โดยชานั้นเข้ามาพร้อมกับการติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรมกับประเทศจีน ซึ่งในสมัยนั้นความนิยมการดื่มชายังเป็นแบบดั้งเดิม คือเน้นรสธรรมชาติของชา โดยไม่ต้องปรุงแต่งกลิ่น หรือสีสังเคราะห์ แตกต่างกับในปัจจุบันอย่างมาก ที่ีเครื่องดื่มจากชามีมากมายหลายรสชาติ (ในประเทศไทยไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมา เครื่องดื่มชาโดยเฉพาะชาเขียว กลาย เป็นเครื่องดื่มทางเลือกให้กับคนที่รักสุขภาพ ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่มชาเขียวก็เปิดตัวกันมากมายหลายยี่ห้อสินค้า รวมทั้งรสชาติต่าง ๆ มากมาย เช่นผสมเก๊กฮวย ผสมโกจิเบอร์รี่ ผสมสตรอเบอร์รี่ ผสมข้าวโพด ซึ่งทุก ๆ ท่านก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี) 
 
 
 
        
          |  |  
          | โฉมหน้าของ "ไร่ชาวังพุดตาล" ไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของดอยแม่สลอง
 |  แล้วทุกท่านทราบหรือไม่ว่า?? กว่าจะได้เครื่องดื่มชาที่เราดื่มกันทุกวันนี้ชานั้นมาจากไหน!! ชา  หรือต้นชา จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูง หนาวเย็น  มีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม  จึงมักจะพบปลูกในภาคเหนือของประเทศไทยบริเวณที่มีความสูงของพื้นที่ตั้งแต่ 1200  เมตรขึ้นไป แหล่งปลูกชาที่สำคัญของประเทศไทยอยู่ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย  (ตามดอยต่าง ๆ เช่นดอยแม่สลอง ดอยวาวี ฯลฯ) ชาวไร่ชาจะดูแลประคบประหงมต้นชาน้อย ๆ จนกลายเป็นต้นชาที่สามารถเก็บใบชานำส่งป้อนสู่โรงงานชาต่อไป  โดยส่วนของใบชาที่เก็บ คือส่วนยอดอ่อนของชา ประกอบด้วยใบอ่อน 2 ใบ  และ 1 ยอดอ่อนเท่านั้น (จากการที่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราได้พูดคุยกับพี่ ๆ ที่ร้านชา  บอกว่าใบอ่อน 2 ใบของยอดชานั้นใบหนึ่งจะมีรสหวาน ใบหนึ่งจะมีรสขม ส่วน 1  ยอดนั้นจะมีรสฝาด เมื่อนำมารวมกันก็จะได้เป็นชารสชาติกลมกล่อม) ส่วนการเก็บยอดใบชานั้นนิยมเก็บตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่จนไม่เกิน  11 โมงเช้า
 
 
        
          |  |  
          | .......จะชงชาให้ได้สีเหลืองทองต้องมีฝีมือไม่หยอกเลย.......
 |  
 
      เครื่องดื่มชา มีประโยชน์มากมายหลายอย่างเลยทีเดียว  เช่น รสชาติดี ทำให้สดชี่นกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย มีสารต้านอนุมูลอิสระ  ป้องกันสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง มีส่วนช่วยในการลดไขมันในเลือด ทำให้มีการนำชามาใช้ในประโยชน์เพื่อการบำรุงร่างกาย เช่นนำประกอบเป็นอาหาร เช่นเป็ดอบใบชา ใบชาผัดหมุสับ เป็นต้น (เมนูใบชาต่าง ๆ หากท่านได้มาเที่ยวที่อำเภอแม่สลองก็สามารถมาชิมกันได้นะคะ) 
 
        
          |  |  
          | ..........ยอดชาสดๆ จากไร่.........................ในที่สุดก็ถูกแปรรูปส่งมาถึงร้าน..........(ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าการเด็ดยอดชาที่ถูกต้องนั้นต้องเด็ด 2 ใบกับอีก 1 ยอด)
 |  นอกจากข้อดี หรือประโยชน์ของชาแล้ว ข้อเสีย หรือจะเรียกว่าเป็นข้อควรระวัง ในการดื่มชา ก็คือ ชามีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุที่มีประโยชน์บางชนิดเข้าสู่ร่างกาย โดยมีผลทำให้ดูดซึมแร่ธาตุได้น้อยลง ร่างกายจึงไม่สามารถนำสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่  จึงไม่แนะนำให้เด็ก หรือหญิงมีครรภ์ ดื่มชา สำหรับท่านที่ชื่นชอบการดื่มชาก็ควรดื่มในประมาณที่เหมาะสมนะคะ
 
 
 |