| วัดพระยืนพุทธบาทยุคล  อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์     (ดูภาพด้านล่าง)
 
 
 
 
     อำเภอลับแลดินแดนแห่งวิถีชีวิตสงบ  เรียบง่าย และมีวัดโบราณสำคัญหลายแห่งอยู่ใกล้กัน เมื่อทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ของเราแวะที่วัดพระแท่นศิลาอาสน์แล้วจึงได้มีโอกาสแวะมาที่วัดแห่งนี้ด้วย  “วัดพระยืนพุทธบาทยุคล”
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | 1.พระเจดีย์ก่อด้วยศิลาแลงสมัยสุโขทัย อายุประมาณ 700 ปี  2.มณฑปพระพุทธบาท    3.พระอุโบสถ  4.สะพานสามัคคีทวีสุข
 |  
 “วัดพระยืนพุทธบาทยุคล”  เป็นวัดที่มีความเก่าแก่คู่กับ “วัดพระแท่นศิลาอาสน์” ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า  พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับยืนบนยอดเขาแห่งนี้ จึงเกิดเป็นรอยพระพุทธบาททั้งพระบาทซ้าย  และพระบาทขวาคู่กันบนแผ่นศิลาแลงฐานดอกบัว ซึ่งทางวัดพระยืนพุทธบาทยุคลได้สร้างมณฑปครอบไว้  (ศิลปะแบบเชียงแสน) ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปยืนโดยรอบผนังทั้งสี่ด้าน  เพดานเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง (จากภาพคาดว่าเป็นภาพชุมนุมเทวดา)  ส่วนจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพพุทธประวัติ ด้านนอกใกล้  ๆ มณฑปจะพบเจดีย์ศิลาแลงลักษณะคล้ายทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ คาดว่าสร้างในสมัยสุโขทัยอายุประมาณ  700 ปี ปัจจุบันเหลือให้เห็นเพียงฐานเจดีย์เท่านั้น
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | .................... วัดพระยืนพุทธบาทยุคล อ.ลับแล   จ.อุตรดิตถ์....................  |  
 
 นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน  เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยชื่อ “หลวงพ่อพุทธรังสี” ตามตำนาน  (เรียบเรียงโดยคุณโสภณ สว่างหล้า อ้างอิงจากตำนานท้องถิ่นจากพระสงฆ์ และฆราวาส  เอกสารใส่กรอบอยู่ในพระอุโบสถ) กล่าวว่าในสมัยพระเจ้าลิไทยธรรมราชา  พระองค์ได้เรียกประชุมเหล่าช่างฝีมือ  ให้มาช่วยกันหล่อพระพุทธรูปขึ้นหลายองค์เพื่อเป็นการเทิดทูนพระพุทธศาสนา
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | "พระพุทธรังสี" พระพุทธรูปซึ่งเชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย  |  
 
      จากการพิจารณาของช่างผู้เชี่ยวชาญในด้านศิลปกรรม  และผู้มีความชำนาญลักษณะพระพุทธรูปหลายท่านต่างยืนยันตรงกันว่า “พระพุทธรังสี”  มีความปราณีตสมสัดส่วนจึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของช่างหลวงในยุคนั้น  
 
 
                          
                            |  |  
                            | ความสวยงามภายในมณฑปพระพุทธบาท |  
 
                          
                            |  |  
                            | ....................พระพุทธรูปหลากแบบหลายลักษณะ.................... |  
 
      เดิมพระพุทธรังสีเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น  แต่ขณะที่แม่ชี 4 คนจากนครศรีธรรมราช ได้เข้านมัสการและสำรวมจิตเจริญภาวนาได้เห็นแสงรัศมีออกจากองค์พระพุทธรูปจึงแจ้งให้กับเจ้าอาวาสในขณะนั้นทราบ  หลังจากนั้นจึงร่วมกับชาวบ้านหาช่างมากะเทาะปูนออก พบเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์  มีพุทธลักษณะงดงาม จึงได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถขึ้นเพื่อประดิษฐานจนถึงปัจจุบัน  โดยพระยากัลยาณวัฒนวิศิษฐ์ อดีตสมุหเทศาภิบาล  มณฑลพายัพที่มาตั้งรกรากที่อำเภอลับแลเป็นผู้ถวายพระนาม “พระพุทธรังสี”  ต่อมาท่านอาจารย์ศุภรัตน์  และลูกศิษย์สายหลวงปู่ทวดได้ถวายฉัตรครอบเหนือเกศพระพุทธรังสี  เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | "รอยพระพุทธบาทคู่" คือ เอกลักษณ์เฉพาะของ "วัดพระยืนพุทธบาทยุคล"  |  
 
 เมื่อออกจากพระอุโบสถเดินมาทางด้านหน้าจะเห็น  “สะพานสามัคคีทวีสุข” เป็นสะพานเชื่อมต่อไปยัง “วัดพระนอนพุทธไสยาสน์”  ผ่านบันไดนาคไปยังมณฑปจตุรมุข บานไม้แกะสลักลงรักปิดทอง  ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ จึงเป็นเส้นทาง 3  วัดที่น่าสนใจเมื่อมาเที่ยวที่ อำเภอลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์ (วัดพระแท่นศิลาอาสน์  วัดพระยืนพุทธบาทยุคล และวันพระนอนพุทธไสยาสน์)
 
 
 
 
 
                          
                            |  |  
                            | ภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราว "พุทธประวัติ"  |  
 การเดินทาง : วัดพระยืนพุทธบาทยุคล จากตัวเมืออุตรดิตถ์ไปตามทางหลวงหมายเลข 102 ประมาณ 3.5 กม. เลยวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งไป จะมองเห็นวัดอยู่ทางซ้ายมือใกล้ทางแยก
 
 
 
 
 
 
 
 |