| อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย   (ดูภาพด้านล่าง) 
      ศรีสัชนาลัย เดิมชื่อเมืองเชลียงเป็นเมืองโบราณสำคัญทางประวัติศาสตร์คู่มากับสุโขทัยมาตั้งแต่สมัยครั้งอดีต  ได้รับการบูรณะจนสามารถเปิดเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยให้กับนักท่องเที่ยวเข้าชมได้เมื่อปี  2533 และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปีถัดมา      เนื่องจากสถานที่กว้างขวางของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย  ทำให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรา  ตกลงใจที่จะสัมผัสบรรยากาศให้ทั่วทุกมุมโดยการขี่จักรยานสำรวจโบราณสถานกัน  หลังจากผ่านด่านเก็บค่าธรรมเนียมด้านหน้าเรียบร้อย พวกเราก็จับจูงจักรยานคู่ชีพกันคนละหนึ่งคัน  เสียค่าเช่าจักรยาน คันละ 20 บาท  ขี่ได้ทั้งวันแต่ต้องมาคืนก่อนห้าโมงเย็น  สภาพจักรยานของที่นี่ไม่ใหม่เหมือนกับที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย  แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะอย่างไรทีมงานเราก็จะไปจักรยานอยู่ดี      ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย  บรรยากาศเต็มไปด้วยโบราณสถานเก่าแก่มากมาย  เหมือนดังเป็นมนต์ขลังที่สะกดให้นึกย้อนไปถึงครั้งสมัยที่อาณาจักรยังรุ่งเรืองคงจะงดงามมากกว่าที่เห็นในปัจจุบันหลายร้อยหลายพันเท่า  
 จุดแรกที่แวะกันก็คือ
 วัดช้างล้อมวัดช้างล้อมเป็นวัดขนาดใหญ่  มีองค์พระเจดีย์ตั้งเป็นประธานอยู่ตรงกลางวัด  ฐานพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแต่ละด้านของฐานมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่โดยรอบ  ขึ้นบันไดเดินชมได้  (ปัจจุบันผุพังไปตามกาลเวลาเหลือเพียงเค้าโครงให้เห็นว่าเดิมเคยเป็นพระพุทธรูป)  ด้านล่างของฐานพระเจดีย์มีช้างล้อมรอบทุกด้าน เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ค่อนข้างสมบูรณ์เห็นเป็นหัวช้าง  ส่วนช้างตัวอื่นเหลือเพียงส่วนขาช้างให้เห็นเท่านั้น เก็บภาพกันเรียบร้อยพวกเราก็คว้าจักรยานขี่ไปฝั่งตรงข้ามสู่วัดเจดีย์เจ็ดแถว
 วัดเจดีย์เจ็ดแถวเจดีย์ประธานของวัดเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ และมีเจดีย์บริเวณเรียงรายอีกถึง 33 องค์ ออกเดินทางจากวัดเจดีย์เจ็ดแถว  พวกเราก็ขี่จักรยานชิดซ้ายเรียงกันเป็นแถวตอน สวนกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ  ขี่เลียบไปตามริมกำแพงเมือง จนมาถึงเนินก่อนถึงทางเข้าวัดสุวรรณคีรี
 วัดสุวรรณคีรีทางลาดชันสูงก่อนถึงทางเข้าวัดสุวรรณคีรี  ทำให้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราทุกคน  ต้องลงจากจักรยานและจูงขึ้นไปแทนเพราะเหตุว่าต้านแรงโน้มถ่วงของโลกไม่ไหว เกรงว่าจะไหลลงมากองกับพื้นซะก่อน  เมื่อพ้นเนินขึ้นมาได้จะเห็นทางขึ้นเขาขวามือไม่กว้างนัก เดินตามบันได้ขึ้นไปจนเหงื่อซึม  ก็จะถึงตัววัด มีเจดีย์องค์ใหญ่เป็นประธานตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกัน  แต่ละด้านของฐานเจดีย์มีซุ้มประตูตั้งอยู่ จากที่วัดสุวรรณคีรีมีทางเดินต่อไปถึงวัดเขาพนมเพลิงได้  แต่ทางทีมงานต้องกลับไปรับเจ้าจักรยานคู่ชีพที่จอดไว้ด้านล่างก่อนที่มันจะหายไป  จึงขี่จักรยานลงทางลาดมาด้วยความรวดเร็วย้อนกลับทางวัดเขาพนมเพลิงเพื่อไปขึ้นบันไดด้านหน้าแทน
 วัดเขาพนมเพลิงทางขึ้นวัดเขาพนมเพลิงเป็นบันได้ศิลาแลงประมาณร้อยกว่าขั้น  สำหรับคนที่กลัวความสูงขึ้นไปแล้วอย่าหันมองลงมาด้านล่างอาจจะหน้ามืดเป็นลมได้  เมื่อเดินไปจนถึงด้านบนจะพบกับวัดพนมเพลิง  เหลือเพียงโบราณสถานปรักหักพังที่ยังพอมองออกว่าเคยเป็นวิหาร  และเจดีย์ทรงระฆังที่ทรุดตัวลง (ไม่ควรปีนป่าย หรือเข้าใกล้มากเพราะมีป้ายเตือนอันตรายด้วย)  ด้านหลังมีศาลเจ้าแม่ละอองสำลี และเป็นทางต่อไปยังวัดสุวรรณคีรี
 นอกจากที่กล่าวมาแล้ว  ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ยังมีวัดอื่น ๆ อีกเช่น วัดนางพญา  วัดสวนแก้วอุทยานน้อย และวัดสวนแก้วอุทยานใหญ่  เมื่อคืนรถจักรยานแล้วทีมงานก็ประจำที่บนรถคู่ใจมุ่งสู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ  (วัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง) ที่อยู่ด้านนอกของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเป็นอันดับต่อไป
 
                    
                      |  |  
                      | โบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยชั้นใน |  
 
                    
                      |  |  
                      | วัดช้างล้อม และเจดีย์ประธานภายในวัดที่ยังคงเค้าโครงเกือบจะสมบูรณ์  |  
 
                    
                      |  |  
                      | กำแพงแก้ว และพระพุทธรูปภายในพระเจดีย์  |  
 
                    
                      |  |  
                      | จักรยานคู่ชีพที่พาทีมงานของเราไปเที่ยวจนทั่วอุทยานประวัติศาสตร์ |  
 
                    
                      |  |  
                      | ความงดงามของลวดลายบนกำแพงวัดที่ยังคงเหลือให้ได้ชม |  
 
                    
                      |  |  
                      | บันไดทางขึ้นสู่วัดเขาพนมเพลิงที่ทอดตัวสูงขึ้นไปด้านบน และบางส่วนของวัดสุวรรณคีรี  |  
                    
                      |  |  
                      | นอกจากโบราณสถานที่ทรงคุณค่าแล้ว ความสวยงามของดอกไม้ในบริเวณใกล้เคียงก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ต้องหยุดชม
 |  วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ  หรือวัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง เป็นวัดสำคัญของเมืองเชลียงมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย  ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่ วิหาร เจดีย์ทิศ ซุ้มพระ  และกำแพงแก้ว ภายในวัดมีพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยสุโขทัยประดิษฐานอยู่  หลังจากท่องเที่ยวกันจนเต็มที่แล้วก็ได้เวลาที่ทางทีมงานของเราจะต้องกลับไปพักผ่อนกันเสียที การเดินทางจากอำเภอเมืองใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 101  ผ่านอำเภอศรีสำโรง อำเภอสวรรคโลก มุ่งไปทางอำเภอศรีสัชนาลัย เมื่อถึงกม. 64  จะพบสามแยก (แยกสะพานปูน หรือแยกตีนเขา) ให้เลี้ยวซ้ายขับต่อไปจะพบสี่แยก  ถ้าเลี้ยวขวาจะไปอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย  แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระบรมธาตุเมืองเชลียงนั่นเอง
 
 
                    
                      |  |  
                      | พระพุทธรูปโบราณ ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ   |  
 
                    
                      |  |  
                      | พระวิหาร ที่ยังคงหลงเหลือหลักฐานอันเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่  |  
 
                    
                      |  |  
                      | เจดีย์ประธาน และพระพุทธรูปภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระธาตุเมืองเชลียง  |  
 
 |