Custom Search
 


เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล
(ดูภาพด้านล่าง)



     จะดีกว่าไหม.....?..........ถ้าคุณได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สูดลมหายใจเข้าได้เต็มปอด ล้มตัวลงนอนบนหาดทรายขาวละเอียดดั่งผงแป้ง ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง..........กล่อมให้คุณนอนหลับฝันดี น้ำทะเลใสราวกับกระจกส่องผ่านให้เห็นความสวยงามใต้ผืนน้ำ พร้อมดำดิ่งสัมผัสชีวิตสัตว์โลกหลากชนิดแห่งท้องทะเลอันดามัน และค้นพบความมหัศจรรย์ของมหาสมุทร “ปะการัง 7 สี” ..........ณ..........ที่แห่งนี้ “ทะเลจังหวัดสตูล



หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

เขาว่ากันว่า "หาดพัทยา 2" คือ ชายหาดที่สวยที่สุดของ "เกาะหลีเป๊ะ"


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ


.........................เก้าอี้ชมทะเล.........................



     ข้อความข้างต้น คือ ประโยคประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวบางส่วนของ “สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม : สสว.” ที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงาม , ความอุดมสมบูรณ์ และความน่าหลงใหลของสภาพธรรมชาติโดยรอบเกาะทั้ง 51 แห่งภายในเขต “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา” ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในบรรดาเกาะน้อยใหญ่ทั้งหลายทั้งหมดเหล่านี้ “เกาะหลีเป๊ะ” คือ หนึ่งในเกาะที่มีความงดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวจำนวนมากซึ่งเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก



หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ


................พาหนะสำคัญของชาวเกาะ...............
("หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล" ในบรรยากาศยามรุ่งอรุณ)




     แต่ก่อนที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) จะพาคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านไปชื่นชมกับบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ต่างๆ บนเกาะหลีเป๊ะ พวกเราแนะนำว่าลองมาทำความรู้จักกับข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า 

     เกาะหลีเป๊ะบ้านของชาวเลอูรัก ลาโว้ย

     คำว่า “หลีเป๊ะ” เป็นภาษาชาวเล แปลว่า “แผ่นกระดาษ” สาเหตุที่ชาวเลเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “เกาะหลีเป๊ะ” นั้นก็เนื่องมาจากภูมิประเทศส่วนใหญ่บนเกาะเป็นพื้นที่ราบเรียบ ไม่มีภูเขาสูง (แต่มีเนินเขาเตี้ยๆ ตั้งอยู่บ้าง) ตัวเกาะมีลักษณะคล้ายกับแผ่นกระดาษขนาดใหญ่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เกาะหลีเป๊ะมีความยาวจากหัวถึงท้ายเกาะ 3 กม. กว้างที่สุดเพียงแค่ 1.75 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าสัญจรผ่านไปมาระหว่างอ่าว – ชายหาดต่างๆ รอบๆ เกาะได้อย่างไม่ยากลำบากนัก



หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ


...............ฟ้าสาง กับ ทิศทางของเรือหางยาว...............

         
      

     บนเกาะหลีเป๊ะมีชาวเลอาศัยอยู่มายาวนานกว่าร้อยปีนับตั้งแต่ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้เกาะแห่งนี้รวมเข้าอยู่ในเขตของ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา” ดังนั้นการจัดสรรใช้ประโยชน์พื้นที่ส่วนต่างๆ บนเกาะหลีเป๊ะจึงถูกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชุมชนบริหารจัดการกันเอง โดยทางอุทยานแห่งชาติฯ ทำหน้าที่เพียงแค่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีบนเกาะคอยอำนวยความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง (เกาะหลีเป๊ะได้รับการประกาศให้รวมอยู่ในเขต “อุทยานยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2517 แต่ก่อนหน้านี้มีกลุ่มชาวเลอาศัยทำมาหากินอยู่ในละแวกเกาะหลีเป๊ะมายาวนานกว่าร้อยปีแล้วครับ)


           
หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ

ตอนเช้า ณ "หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ"


หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ

...............บางช่วงเวลาก็งดงามเกินกว่าจะบรรยาย...............




    
ชาวเลในประเทศไทยสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ “อูรัก ลาโว้ย” , “มอแกลน(หรือ “มอเกล็น” ) และ “มอแกน(หรือ “มอเก็น” ) โดยชาวเลแต่ละกลุ่มนั้นจะมีความแตกต่างกันในด้านภาษา , รูปแบบลักษณะเรือดั้งเดิมที่ใช้ และมีพิธีกรรมสำคัญๆ ไม่เหมือนกัน (ตัวอย่างความแตกต่างด้านภาษาของชาวเลแต่ละกลุ่ม เช่น วลี “จะไปไหน” ในภาษาอูรัก ลาโว้ยใช้ “บีดีฮา” ขณะที่ภาษามอแกลนพูดว่า “เกาตำไล้” ส่วนภาษามอแกนคือ “ลาเกาปิต๊ะ” เป็นต้น) สำหรับกลุ่มชาวเลดั้งเดิมซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่อดีตมาจวบจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบันนั้น ได้แก่ “อูรัก ลาโว้ย (Urak lawoi)” บางครั้งในยามที่นักท่องเที่ยวกำลังล่องเรือเพื่อไปดำน้ำตื้นตามเกาะแก่งต่างๆ รอบๆ บริเวณเกาะหลีเป๊ะอาจได้ยินเสียงนายท้ายร้องทักทายกับผองเพื่อนบนเรือลำอื่นๆ ด้วยภาษาที่ไม่คุ้นหู แม้ว่าจะลองพยายามฟังดูอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ขอให้ทราบเอาไว้ว่านั่นแหละคือภาษาของชาวเล “อูรัก ลาโว้ย”



หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ


.........................ชุดรับแขก เมื่อแรกวัน.........................
(ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ "หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ")




      ในอดีตเมื่อคราวที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินมายังเกาะหลีเป๊ะ พระองค์ได้พระราชทานนามสกุลให้แก่ชาวเล “อูรัก ลาโว้ย” ซึ่งทำมาหากินอยู่ในละแวกเกาะหลีเป๊ะว่า “หาญทะเล” และลูกหลานตระกูลหาญทะเลนี่เองที่ยังคงสืบเชื้อสายชาติพันธุ์ องค์ความรู้ และศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวเล “อูรัก ลาโว้ย” อยู่บนเกาะหลีเป๊ะมาจวบจนกระทั่งถึงยุคสมัยปัจจุบัน




หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ


จาก "หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ" มองเห็น "เกาะกระ" อยู่ห่างออกไปไม่ไกล



     ระยะหลังวิถีชีวิตของชาวเลกลุ่มต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เริ่มซึมซับวัฒนธรรมและภาษาไทยมากขึ้น ส่วนวัฒนธรรมของชาวเลดั้งเดิมนั้นก็ถูกละเลยและค่อยๆ สูญหาย ทุกวันนี้กลุ่มชาวเล “อูรัก ลาโว้ย” ทำการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยอย่างถาวรบนชายฝั่ง ประกอบอาชีพรับจ้างทำสวน ทำประมง นำเที่ยว และอาชีพอื่นๆ มีการทำบัตรประชาชน รวมถึงได้รับการศึกษาตามระบบ

                  
หาดชาวเล เกาะหลีเป๊ะ


...............สิ่งปลูกสร้างเก่าๆ กลางท้องทะเลใส...............

 

     แม้ว่าความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของชาวเลรุ่นใหม่จะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ชาวเล “อูรัก ลาโว้ย” ซึ่งตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะก็ยังคงมีการสืบทอดอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมสำคัญๆ ของชนเผ่าเอาไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย ดังจะเห็นได้จากประเพณีลอยเรือ “เปอลาจั๊ก” ซึ่งเป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกๆ ปี ปีละ 2 ครั้ง ระหว่างวันขึ้น 13 – 15 ค่ำของเดือนพฤษภาคมและเดือนตุลาคม โดยคนในหมู่บ้านจะมาช่วยกันต่อเรือ ประดับประดาด้วยดอกไม้และธงทิว ตกแต่งที่หัวเรือด้วยเต่านำทาง แล้วเอาข้าวตอก หมากพลู ตัดเล็บตัดผมใส่ลงในลำเรือ ตามความเชื่อว่าจะเป็นการลอยทุกข์โศก โรคภัย เคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปจากชุมชนและเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเล พร้อมกันนั้นยังเป็นการเสี่ยงทายเรื่องโชคลางว่าปีนั้นๆ จะมีโชคดีหรือโชคร้ายในการจับสัตว์น้ำ มีการละเล่นพื้นบ้าน ร้องรำทำเพลง แข่งขันประชันกีฬาท้องถิ่นกันอย่างสนุกสนาน หากนักท่องเที่ยวมีโอกาสเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากจะได้ยืน เดิน นั่ง นอน ผ่อนคลายบนชายหาดสวยๆ ได้ลงเล่นน้ำทะเลใสๆ ได้ดำดูปะการังน้ำตื้นที่แสนอุดมสมบูรณ์ แล้วยังจะได้ชื่นชมกับประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามของชาวเล “อูรัก ลาโว้ย” อีกด้วย [ปกติในช่วงตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 15 พฤศจิกายน ของทุกๆ ปีจะเป็นช่วงเวลาปิดทำการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาชมงานประเพณีลอยเรือ “เปอลาจั๊ก” บน “เกาะหลีเป๊ะ” ในช่วงเวลาดังกล่าว กรุณาสืบค้นข้อมูลตารางการจัดงานประเพณีฯ และตรวจสอบกำหนดการปิด “เกาะหลีเป๊ะ” กับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาอีกครั้งตามเบอร์โทรศัพท์ (074) 783 – 485 , (074) 783 – 597 ครับ]


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

เรือยอร์ชกลางแสงจ้า กับ ฝูงลูกปลาในน้ำ


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

.........................อาบแดดหน้า "หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ".........................


   
     

     หาดทรายสวย.....น้ำทะเลใส.....แนวปะการังงดงามยิ่งกว่าที่ใดๆ “เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล”

     
กลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 หลังจากที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ใช้เวลาพักค้างแรมบนเกาะตะรุเตามา 2 คืน และเกาะอาดัง 1 คืน รวมถึงนั่งเรือหางยาวทัวร์ดำน้ำตื้นรอบๆ “หมู่เกาะอาดังราวี” ไปอีก 1 วัน ก็ถึงคราวที่พวกเราจะโยกบั้นท้ายย้ายกระดูกสันหลังมานั่ง – นอนเอกเขนกบน “เกาะหลีเป๊ะ” กันบ้าง



หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

มากมายหลายสิ่ง..........งดงามอย่างยิ่ง ณ "หาดพัทยา 2"




     บ่ายคล้อยหลังจากโปรแกรมทัวร์ดำน้ำตื้นสิ้นสุดลง.....เรือหางยาวที่พวกเราโดยสารมาก็ค่อยๆ ลอยลำผ่านโป๊ะกลางทะเลเข้าเทียบชายฝั่งด้านหน้า “หาดพัทยา 2” ชายหาดซึ่งมีความสวยงามและมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของเกาะหลีเป๊ะ พวกเราลองมองลงไปยังผิวน้ำใสเบื้องล่างก็ได้พบกับแนวปะการังโขดขนาดใหญ่ซึ่งวางตัวขนานไปเกือบตลอดแนวชายฝั่ง ด้วยสาเหตุที่ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาไม่อนุญาตให้สร้างท่าเทียบเรือท่องเที่ยวหรือท่าเทียบเรือพาณิชย์ใดๆ บนเกาะหลีเป๊ะ จึงทำให้แนวปะการังรอบๆ เกาะยังคงความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์อยู่มาได้จวบจนกระทั่งทุกวันนี้ [นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการพักค้างแรมบนเกาะหลีเป๊ะจะต้องลงจากเรือเร็ว (speedboat) หรือเรือเฟอรี่ (ferryboat) บริเวณโป๊ะกลางทะเลด้านหน้าหาดพัทยา 2 แล้วต่อเรือหางยาวเข้ามาที่ชายฝั่ง ค่าโดยสารเรือหางยาวอยู่ที่คนละ 50 – 100 บาท/เที่ยว ขึ้นอยู่กับระยะทางว่านักท่องเที่ยวต้องการจะให้ไปส่งที่หาดใดของเกาะหลีเป๊ะครับ]



หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ


.........................ครอบครัวของฉัน.........................


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ


..........โดดเดี่ยว...............เดียวดาย..........



     
     หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล” ตั้งชื่อขึ้นตาม “หาดพัทยา จ.ชลบุรี” ซึ่งเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่หากจะให้เปรียบเทียบความงดงามระหว่างชายหาดทั้งสองแห่งแล้วล่ะก็ ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมขอเทคะแนนให้กับ “หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ” ไปแบบเต็มๆ ด้วยลักษณะของหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เม็ดทรายละเอียดเนียนนุ่มเท้าราวกับผงแป้ง น้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าใสราวกับกระจก มีฝูงลูกปลาเล็กปลาน้อยว่ายวนเวียนเข้ามาใกล้ๆ ชายหาดให้เด็กๆ วิ่งไล่ช้อนจับกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพบรรยากาศที่ไม่อาจพบเห็นได้จาก “หาดพัทยา จ.ชลบุรี” ..........น่าสงสัยว่าเหตุไฉนใยชายหาดซึ่งมีความสวยงามโดดเด่นดังเช่น “หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ” แห่งนี้ถึงจำเป็นต้องตั้งชื่อเลียนแบบ “หาดพัทยา จ.ชลบุรี” ที่มีความสวยงามด้อยกว่าด้วย ?




หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

เรือหางยาวในมุมมองที่หลากหลาย


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ

.........................ความคล้ายที่แตกต่าง.........................




     ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าบริเวณอ่าวด้านหน้าหาดพัทยา 2 มีแนวปะการังโขดซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่นิยมดำน้ำตื้น (Snorkeling) บริเวณด้านหน้าชายหาดแห่งนี้ เนื่องจากมีเรือหางยาวนำเที่ยวระหว่างเกาะหลีเป๊ะกับเกาะอื่นๆ สัญจรไปมาเข้า – ออกจากด้านหน้าหาดพัทยา 2 อยู่เกือบตลอดทั้งวัน หากมัวแต่ดำน้ำอย่างเพลิดเพลินเกินสมควรอาจโดนคลื่นจากเรือซัดซวนเซจนแข้งขาเป๋เขวปัดไปจิ้มกับหนามเม่นทะเลหรือครูดกับแนวปะการังบาดเจ็บเอาง่ายๆ นอกจากนี้หากมีความประมาทเป็นต้นทุนทั้งตัวคุณและนายท้ายก็อาจนำพาศีรษะมาบรรจบกับลำเรือจนหลงเหลือแผลแยกแตกอยู่บนหัวกบาลได้ด้วย เพราะฉะนั้นหากอดรนทนไม่ได้และต้องการลงดำน้ำตื้นดูปะการังบริเวณอ่าวด้านหน้าหาดพัทยา 2 จริงๆ แนะนำว่าให้ลงดำน้ำบริเวณต้นหาดด้านทิศตะวันออกหรือปลายหาดด้านทิศตะวันตกในช่วงเวลาสาย – บ่ายซึ่งมีปริมาณเรือหางยาวนำเที่ยวสัญจรเข้า – ออกจากหาดพัทยา 2 น้อยที่สุดจะดีกว่า (นักท่องเที่ยวควรสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่ลงดำน้ำตื้น เนื่องจากแนวปะการังด้านหน้าหาดพัทยา 2 ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งมากพอสมควรครับ)



เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

...............จุดเริ่มต้นแห่งการเฉลิมฉลอง...............

         
      

     บริเวณปลายหาดพัทยา 2 ด้านทิศตะวันตกนอกจากจะเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ค่อนข้างปลอดภัยแล้ว ยังมีการสร้างสะพานไม้ไผ่เลาะเลียบตามโขดหินริมชายฝั่งให้นักท่องเที่ยวเดินต่อเนื่องไปยัง “หาดสนม” ชายหาดเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับหาดพัทยา 2 ได้ สำหรับใครที่ชอบหามุมมองแปลกใหม่ในการถ่ายรูป ลองเดินมายังสะพานไม้ไผ่แห่งนี้ดู คุณอาจจะสามารถเก็บภาพสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่บ้านได้อย่างไม่ยากเย็นนัก


           
หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

ณ "หาดพัทยา 2" ดวงประทีปทั้งผอง...............สว่างไสว


หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน หาดพัทยา 2 เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เหมือนอยู่ห่างไกล..........แต่แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนก็ยังอยู่ใกล้แค่เอื้อม




    
เมื่อย่ำสนธยามาเยือน.....แสงสีจากร้านอาหารและบาร์เบียร์ริมหาดพัทยา 2 จะเริ่มส่องประกายวิบวับ เสียงเพลงดังบ้าง.....เบาบ้างถูกเปิดขึ้นเพื่อโหมโรงให้เหล่านักท่องราตรีได้รับรู้ว่าช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของพวกเขากำลังมาถึง นักแสดงโลดโผนควงลูกตุ้มเพลิงฉวัดเฉวียนโชว์ลีลาอยู่ริมชายหาด อาหารทะเลปิ้งย่างบนเตาบาร์บีคิวขนาดใหญ่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายผู้คนซึ่งเดินผ่านไปมา ลมทะเลพัดพาเกลียวคลื่นถาโถมเข้าสู่ชายฝั่งเป็นจังหวะดัง ซ่า.....ซ่า..........ซ่า.....ซ่า สำหรับใครที่มอบใจถวายกายเป็นสาวกของ “Dionysus (ไดโอไนซุส : เทพแห่งเมรัยและไวน์ของชาวกรีก)”  อาจจะหลงคิดว่าดินแดนแห่งนี้ คือ สวนสวรรค์บนโลกมนุษย์ แต่สำหรับเหล่าสัตบุรุษผู้ยึดมั่นในศีลธรรมแล้ว นี่คือสถานที่อโคจรซึ่งพวกเขาควรหลีกลี้หนีให้ห่างไกล (คำแนะนำ : นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างสงบสุข ควรหลีกเลี่ยงการพักค้างแรมในบริเวณหาดพัทยา 2 เนื่องจากร้านอาหารและบาร์เบียร์บางแห่งจะเปิดเพลงเสียงดังมากจนอาจจะรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของคุณได้ครับ)




เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

...............สีสัน.....ใน.....แสงสลัว...............


เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

ความมืดมัว...............ลับเลือนหาย




     จากหาดพัทยา 2 มีเส้นทางเดินเล็กๆ ทอดยาวเข้าสู่ตอนกลางของเกาะหลีเป๊ะซึ่งเป็นจุดที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังชายหาดแห่งอื่นๆ รอบๆ เกาะได้ไม่ว่าจะเป็น หาดชาวเล , หาดประมง หรือ แหลมสน และพื้นที่ตอนกลางของเกาะหลีเป๊ะนี่เองที่เป็นจุดศูนย์รวมของร้านอาหารราคาประหยัดอันหลากหลาย ทั้งร้านอาหารตามสั่งทั่วไป , ร้านส้มตำ – ไก่ย่าง , แผงลอยขายข้าวเหนียว – หมูย่าง , ข้าวโพดปิ้ง , ผลไม้สด , โรตี , โดนัท ,ฯลฯ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถนำภาชนะเปล่ามาเติมน้ำดื่มสะอาดจากตู้กดน้ำหยอดเหรียญด้านหน้าที่พักบางแห่งได้ด้วย



เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน เกาะหลีเป๊ะ บรรยากาศยามค่ำคืน

ใต้แสงจันทรา กับ ราตรีแห่งความลุ่มหลง



      หลังจากใช้เวลาเดินสำรวจพื้นที่บางส่วนของเกาะหลีเป๊ะอยู่เกือบ 2 ชม. ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะรับประทานอาหารเย็น อาบน้ำ แปรงฟัน และนอนพักผ่อนออมแรงไว้ถ่ายภาพ – เก็บข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะแห่งอื่นๆ ในวันรุ่งขึ้น





เกาะหลีเป๊ะ หน้า 1 2







 


แผนผังเว็บไซต์ (Site Map)


บทความและภาพทุกภาพภายในเว็บไซต์หน้านี้เป็นลิขสิทธิ์ของท่องเที่ยวดอทคอม
(www.Thongteaw.com)
หากผู้ใดทำการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไขหรือนำไปใช้ในกรณีใด ๆ
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางทีมงาน
จะถูกดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด


Copy right © Since 2008 by Thongteaw.com - All Rights Reserved
เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็คโทรนิคส์ 3102201494154