Custom Search
 



แมงกะพรุน

     

     “หมวก” หรือ “ร่มแห่งท้องทะเล” คือคำบางคำซึ่งเราใช้เรียกเจ้าสัตว์น้ำหน้าตาน่ารักน่าชังประเภทนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมงกะพรุนนั้นสามารถพบได้ทั้งในแหล่งน้ำจืดและแหล่งน้ำเค็มซึ่งบางชนิดก็รับประทานได้บางชนิดก็รับประทานไม่ได้ หลายชนิดมีพิษและอีกหลายชนิดไม่มีพิษ แต่แมงกะพรุนที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม( www.Thongteaw.com )คิดว่ามีความสำคัญเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวพอที่จะนำมาเขียนในหัวข้อสุขภาพนี้คงจะหนีไม่พ้นแมงกะพรุนมีพิษแน่นอน ลองไปอ่านดูกันเลยครับ
แมงกะพรุนพิษมีอยู่หลายชนิดเช่น แมงกะพรุนลาย ,แมงกะพรุนสาหร่าย ,แมงกะพรุนถ้วย ,แมงกะพรุนไฟ และแมงกะพรุนพิษที่เพิ่งค้นพบล่าสุดไม่นานมานี้เมื่อปี พ.ศ. 2550 คือ แมงกะพรุนกล่อง เจ้าพวกแมงกะพรุนพิษเหล่านี้จะมีเข็มพิษเล็กๆบรรจุอยู่ในถุงหุ้มจำนวนมากมายรอบปากและบริเวณหนวด เมื่อมีอะไรก็ตามมากระทบบริเวณเหล่านั้นเข็มพิษเล็กๆนี้ก็จะถูกยิงออกมาจากถุงหุ้มเข้าสู่สิ่งที่มากระทบทันที หากสิ่งที่มากระทบเป็นสิ่งมีชีวิตก็จะเกิดอาการคัน ,ปวดแสบร้อน ,เนื้อเยื่อตายบริเวณที่โดนสัมผัส(เป็นแผลไหม้),มีไข้ ,อาเจียน กรณีที่ได้รับพิษจากแมงกะพรุนซึ่งมีพิษรุนแรงมากเช่น แมงกะพรุนสาหร่าย ,แมงกะพรุนไฟหรือแมงกะพรุนกล่องอาจเกิดอาการชา ,กล้ามเนื้อหดเกร็ง ,จุกเสียด ,หายใจไม่สะดวก ,หัวใจเต้นผิดจังหวะและอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยใช่ไหมล่ะครับที่ไปเที่ยวทะเลดีๆ...... พอมีคนมาเจออีกทีคุณก็อาจกลายเป็นศพขึ้นอืด

     สำหรับวิธีปฐมพยาบาลในกรณีที่โดนพิษแมงกะพรุนสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

     1.ขณะอยู่ในน้ำหากรู้สึกเจ็บแปล๊บ ,ปวดแสบ ,ปวดร้อนให้รีบขึ้นจากน้ำทันที เพราะหากเป็นอาการแรกเริ่มของการโดนพิษแมงกะพรุน การดันทุรังเล่นน้ำต่ออาจทำให้สิ้นชีพได้(บางครั้งอาจไม่สามารถสังเกตเห็นตัวแมงกะพรุนได้เพราะคุณอาจสัมผัสกับหนวดแมงกะพรุนซึ่งหลุดลอยมาตามกระแสน้ำเท่านั้นครับ)
     2.เมื่อขึ้นจากน้ำแล้วหากมีหนวดแมงกะพรุนขาดติดกับร่างกายอยู่หรือหากแมงกะพรุนมันรักคุณมากถึงขนาดเกาะติดมาทั้งตัวได้ก็ให้หาอะไรที่ไม่ใช่มือเปล่าของคุณ(เช่น กิ่งไม้)คีบออกซะ.....อย่าไปอาลัยอาวรณ์กับมันนัก
     3.ใช้ครีมโกนหนวดทาลงบนบริเวณที่สัมผัสกับแมงกะพรุนแล้วใช้บัตรพลาสติกขูดหรือใช้ที่โกนหนวดโกนเพื่อกำจัดเอาเข็มพิษซึ่งติดอยู่ออกไป กรณีที่เห็นตัวเลขปรากฏขึ้นมาภายหลังกระบวนการข้างต้นก็จดหรือจำไว้ซะแล้วเอาไปแทงหวยต่อ
     4.ไม่ควรนำผ้าเช็ดตัวหรือทรายมาขัดถูบริเวณบาดแผลซึ่งถูกพิษแมงกะพรุนด้วยความเข้าใจว่ากำลังทำ spa ให้กับตนเองอยู่ เนื่องจากการขัดหรือถูนั้นอาจทำให้ถุงหุ้มเข็มพิษแตกออกหรือทำให้เข็มพิษถูกกระตุ้นให้แทงออกมานอกถุงได้และความเลวร้ายของบาดแผลก็จะเพิ่มทวีมากขึ้น
     5. ห้ามใช้น้ำจืดล้างบริเวณบาดแผลที่สัมผัสกับแมงกะพรุนเพราะจะทำให้ถุงบรรจุเข็มพิษแตกออกมากขึ้น
     6.วิธีระงับความเจ็บปวดและการอักเสบจากพิษของแมงกะพรุนที่ง่ายและดีที่สุดจากการทดสอบเปรียบเทียบ(ข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา) คือ การใช้น้ำสะอาดอุ่นๆค่อนข้างร้อนอุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียสค่อยๆราดบริเวณบาดแผลที่โดนพิษแมงกะพรุนหรือแช่อวัยวะนั้นๆในน้ำอุ่นหรือจะนำน้ำอุ่นมาใส่ขวดแก้วปิดสนิทห่อผ้าสะอาดแล้วนำมาประคบ(หากอยากทันสมัยหน่อยก็ใช้ hot packครับ)ก็ได้ โดยอาการปวดจะลดลงภายใน 4 – 10 นาทีและสามารถลดการบวมของเนื้อเยื่อได้ ให้ใช้เวลาบำบัดด้วยน้ำอุ่นประมาณ 10 – 15 นาทีต่อรอบ ทำซ้ำประมาณ 2 – 3 รอบ ส่วนวิธีอื่นๆจากการทดสอบเปรียบเทียบที่สามารถทำได้แต่ให้ผลดีน้อยกว่าการใช้น้ำอุ่นคือ การใช้น้ำส้มสายชู ,สารส้มหรือน้ำแข็ง
     7.ในกรณีที่ต้องการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบำบัดอาการจากพิษแมงกะพรุนก็สามารถทำได้โดยการนำเอาใบผักบุ้งทะเลมาล้างให้สะอาด ตำหรือขยี้ให้ละเอียดแล้วจึงนำมาพอกบริเวณที่โดนพิษแต่หากสามารถคั้นเอาแต่น้ำได้ก็ทำซะแล้วเอามาบริเวณที่โดนพิษของแมงกะพรุนก็จะบรรเทาอาการแสบร้อน ,ปวด ,บวมและอักเสบได้
     8.หลังจากทำการปฐมพยาบาลจนหมดมุข......ไม่รู้ทำอะไรต่อไปแล้วให้รีบนำผู้ป่วยส่งพบแพทย์ทันทีเพื่อสังเกตอาการหรือทำการรักษาพยาบาลเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป(กรณีที่ตัวคุณเองเป็นผู้ป่วยให้รีบแจ้งญาติหรือเพื่อนๆนำคุณส่งพบแพทย์หรือหากคุณไปท่องเที่ยวทะเลแบบอนาถาไม่มีผู้ใดมากับคุณด้วยก็ควรรีบช่วยเหลือตนเองด้วยการหารถรับจ้าง/ผู้ใจบุญใกล้ๆนำส่งครับ).....กรุณาอย่าพยายามปฐมพยาบาลตนเองหรือผู้อื่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเสียชีวิต

     
     หลังจากได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิษ ,อาการและอาการแสดงจากการโดนพิษและวิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่สัมผัสพิษของแมงกะพรุนไปแล้วเชื่อว่าทุกๆคนคงไม่มีใครอยากโดนเล่นงานด้วยพิษแมงกะพรุนเป็นแน่ เพราะฉะนั้นเราลองมาติดตามดูวิธีการป้องกันการสัมผัสพิษของแมงกะพรุนกันในย่อหน้าต่อไปดีกว่าครับ

     1.เมื่อไปเที่ยวทะเลหากพบแมงกะพรุนเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาด อย่าทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสาไม่รู้จักโตเข้าไปจับแล่นเพราะนอกจากจะแสดงถึงระดับเชาว์ปัญญาที่ไม่ค่อยพัฒนาของท่านแล้ว ยังอาจโดนเข็มพิษของแมงกะพรุนได้อีก(ถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆเราแนะนำให้ใช้กิ่งไม่เขี่ยเล่นอย่างระมัดระวัง อย่าให้หนวดตวัดมาโดนร่างกายท่านก็แล้วกัน แต่ที่ดีที่สุดคืออย่าไปยุ่งกับมันจะเป็นการเหมาะสมกว่าและหากมีบุตรหลานของท่านไปท่องเที่ยวด้วยก็ต้องคอยดูแลเด็กๆเหล่านั้นให้ดีด้วยนะครับ)
     2.หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำทะเลในช่วงฤดูฝน ,หลังพายุฝนฟ้าคะนอง ,ลมกรรโชกแรงเนื่องจากแมงกะพรุนสามารถว่ายน้ำเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะอาศัยกระแสน้ำพัดพาล่องลอยไปตามที่ต่างๆเมื่อเกิดพายุฝนหรือคลื่นลมแรงแมงกะพรุนก็จะถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำทำให้เราสามารถพบแมงกะพรุนบริเวณใกล้ชายฝั่งและเกยตื้นบนชายหาดได้มากหลังจากฝนตก(ยกเว้นแมงกะพรุนกล่องซึ่งเป็นแมงกะพรุนที่สามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว คือ ประมาณ 5 ฟุตต่อวินาทีทำให้มันสามารถจับสัตว์ทะเลด้วยกันกินได้อย่างง่ายดาย)
     3.หากต้องการลงเล่นน้ำทะเลในบริเวณที่คาดว่าจะมีแมงกะพรุนควรป้องกันด้วยการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิดเช่น สวมเสื้อแขนยาว ,ใส่กางเกงขายาว เป็นต้นเพื่อป้องกันการสัมผัสกับแมงกะพรุน (จริงๆแล้วทีมงานของเราคิดว่าหากไม่แน่ใจในอันตรายแค่ไม่ลงไปเล่นน้ำทะเลในบริเวณนั้นก็ป้องกันปัญหาได้ง่ายๆแล้วครับ หากเป็นผู้ซึ่งชอบลงไปเล่นน้ำในบริเวณที่สงสัยว่าน่าจะมีอันตรายอยู่บ่อยๆเราแนะนำว่าควรไปเช็คสุขภาพดูเนื่องจากอาจมีโรคความดันสูงซุกซ่อนอยู่ครับ)


     ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแมงกะพรุน ,วิธีปฐมพยาบาลและวิธีการป้องกันซึ่งพอเป็นประโยชน์บ้างกันไปแล้ว สุดท้ายนี้ทีมงานเราก็ขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงด้วยการตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทนะคร้าบบบบบบบบ




 


แผนผังเว็บไซต์ (Site Map)


Copy right © 2008 - 2010 by Thongteaw.com - All Rights Reserved
เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็คโทรนิคส์ 3102201494154